เมนู

4. ภิงสจริยา


ว่าด้วยจริยาวัตรของภิงสพราหมณ์


[24] อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลเมื่อเราอยู่ในพระนคร
กาสีอันประเสริฐสุด น้องหญิงชาย 7 คน เกิด
ในตระกูลพราหมณ์มหาศาล เราเป็นพี่ใหญ่
ของน้องหญิงชายเหล่านั้น ประกอบด้วยหิริ
และธรรมขาว เราเห็นภพโดยความเป็นภัย
จงยินดีอย่างยิ่งในเนกขัมมะ พวกสหายร่วมใจ
ของเรา ที่มารดาและบิดาส่งมาแล้ว เชื้อเชิญ
เราด้วยกามทั้งหลายว่า เชิญท่านดำรงวงศ์สกุล
เถิด คำใดที่สหายเหล่านั้นกล่าวแล้วเป็นเครื่อง
นำสุขมาให้ในธรรมของคฤหัสถ์ คำนั้นเป็น
เหมือนคำหยาบเสมอด้วยผาลอันร่อน ได้มีแก่
เรา ในกาลนั้น สหายเหล่านั้นได้ถามเราผู้ห้าม
อยู่ถึงความปรารถนาของเราว่า ท่านปรารถนา
อะไรเล่าเพื่อน ถ้าท่านไม่บริโภคกาม เราผู้
ใคร่ประโยชน์แก่ตน ได้กล่าวแก่สหายผู้แสวง

หาประโยชน์เหล่านั้นว่า เราไม่ปรารถนาความ
เป็นคฤหัสถ์ เรายินดีอย่างยิ่งในเนกขัมมะ
สหายเหล่านั้นฟังคำเราแล้ว ได้บอกแก่มารดา
และบิดา มารดาและบิดาได้กล่าวอย่างนี้ว่า
แม้เราทั้งสองก็จะบวช มารดาบิดาทั้งสอง
และน้องหญิงชายทั้ง 7 ของเรา สละทิ้งทรัพย์
นับไม่ถ้วนเข้าไปยังป่าใหญ่ ฉะนี้แล.

จบ ภิงสจริยาที่ 4

อรรถกถาภิงสจริยาที่ 4


พึงทราบวินิจฉัยในภิงสจริยาที่ 4 ดังต่อไปนี้. บทว่า ยทา โหมิ
ภาสีนํ ปุรวรุตฺตเม
ในกาลเมื่อเราอยู่ในแคว้นกาสีอันประเสริฐสุด มี
อธิบายว่า เราเจริญเติบโตอยู่ในกรุงพาราณสี อันเป็นนครประเสริฐของ
แคว้นที่ได้ชื่อว่า กาสี. บทว่า ภคินี จ ภาตโร สตฺต, นิพฺพตฺตา
โสตฺติเย กุเล
น้องหญิงชาย 7 คนเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล ความ
ว่า พวกเราทั้งหมด 8 คน คือ พี่ชาย น้องชาย 7 คน คือ 6 คนมีอุป-
กัญจนะ เป็นต้นและเรา กับน้องสาวคนเล็กชื่อกัญจนเทวี ในกาลนั้นเกิด